เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องเคยเห็นผู้ป่วยที่ใส่สายยางทางจมูกกันอย่างแน่นอน ซึ่งสายยางนั้นจะเป็นสายยางให้อาหาร เพราะผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารเองได้ ดังนั้นการดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหาร จำเป็นต้องมีอาหารเฉพาะที่ทาโรงพยาบาลเป็นผู้จัดเตรียมให้ แต่หากบ้านไหนที่มีผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหาร และยังไม่รู้ว่าจะมีวิธีการดูแล หรือการป้อนอาหารอย่างไรให้เหมาะสม มาดูกันเลย
การดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหาร ผู้ป่วยประเภทไหนควรใส่สายยาง
สำหรับผู้ป่วยปกติส่วนใหญ่แล้วจะไม่ต้องใส่สายยางให้อาหาร แต่หากเป็นผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ หรือรับประทานอาหารได้น้อยกว่า 60% ของพลังงานที่ควรได้รับต่อวันนานติดต่อกันเกิน 3-7 วัน ผู้ป่วยที่มีปัญหาในด้านการกลืน การสำลักอาหาร ผู้ที่มีภาวะขาดสารอาหาร รวมทั้งผู้ที่ไม่รู้สึกตัว หรือไม่ยอมรับประทานอาหารทางปาก ล้วนเป็นผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใส่สายยางให้อาหารทั้งสิ้น แต่การใส่สายยางให้อาหารนั้น จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาจากแพทย์เสียก่อน ทั้งนี้เมื่อผู้ป่วยสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ จะเป็นต้องมีการดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหารอย่างใกล้ชิด และให้อาหารทางสายยางอย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายให้แก่ผู้ป่วยได้มากที่สุด
การดูแลผู้ป่วยที่ใส่สายยางให้อาหารอย่างเหมาะสม มีการดูแลอย่างไรบ้าง
สำหรับการดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหารอย่างเหมาะสมนั้น ความจริงแล้วจะมีวิธีการดูแลที่ง่าย ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่นัก ทุกคนสามารถศึกษาและทำตามได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น
- เช็คสายก่อนให้อาหารทุกครั้ง: ก่อนให้อาหารในทุกครั้ง ผู้ดูแลจำเป็นต้องเช็คสายก่อนเสมอว่า ปลายสายอยู่ในกระเพาะอาหารหรือไม่ ด้วยการใช้หูฟังทางการแพทย์ฟังที่ลิ้นปี่ ก่อนใส่อากาศเข้าไป 100cc. ด้วย syringe feed เพื่อฟังเสียงลม
- เปลี่ยนพลาสเตอร์เสมอ: โดยปกติแล้วผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหาร จะมีพลาสเตอร์ติดไว้ที่จมูกของผู้ป่วย ดังนั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนพลาสเตอร์อยู่เสมอ เพื่อป้องกันความสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- บีบและรูดสายยางให้อาหาร: โดยปกติแล้วการให้อาหารทางสายยาง เราจะให้ทั้งอาหารและนม ดังนั้นเมื่อให้อาหารไปนาน ๆ แน่นอนว่าจะต้องมีคราบติด ดังนั้นเมื่อให้น้ำแล้วให้บีบและรูดสายยางให้อาหาร เพื่อให้คราบต่าง ๆ หลุดได้อย่างง่ายดาย
โดยปกติแล้วผู้ป่วยที่ต้องให้อาหารทางสายยาง น้อยคนนักที่จะดูแลตัวเองหรือให้อาหารตัวเองได้ ดังนั้นผู้ดูแลจำเป็นต้องมีการดูแลผู้ป่วยใส่สายยางให้อาหารอย่างใกล้ชิด และดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้